การตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (STD) ตรวจบ่อยแค่ไหนถึงจะเหมาะสมขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ เช่น ความถี่ในการมีเพศสัมพันธ์ จำนวนคู่รัก และพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศ
กรณีคนโสดที่มีพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศ : ควรตรวจทุก 3 เดือน
หากมีเพศสัมพันธ์กับหลายคนหรือมีพฤติกรรมเสี่ยง เช่น การมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ใช้ถุงยางอนามัย ควรตรวจทุก 3 เดือน เนื่องจากมีความเสี่ยงสูงในการติดเชื้อและแพร่เชื้อให้ผู้อื่น
กรณีมีเพศสัมพันธ์ประจำกับคนที่ไม่ใช่คู่รัก : ควรตรวจทุก 6 เดือน
หากมีเพศสัมพันธ์บ่อยครั้งและมีการเปลี่ยนคู่นอนเป็นช่วงๆ ควรตรวจอย่างน้อย 6 เดือนครั้งหรือตรวจทุกครั้งหลังจากเริ่มมีเพศสัมพันธ์กับคนใหม่
กรณีคู่รักทั่วไป : ตรวจอย่างน้อยปีละครั้ง
หากมีความสัมพันธ์ที่มั่นคงและไม่มีพฤติกรรมเสี่ยงเพิ่มเติม ควรตรวจ STD อย่างน้อยปีละหนึ่งครั้งเพื่อความมั่นใจในสุขภาพของทั้งสองฝ่ายหรือตรวจเมื่อสงสัยว่ามีความเสี่ยง
การตรวจ STD เป็นประจำเป็นการดูแลสุขภาพที่สำคัญ ไม่ว่าจะมีความสัมพันธ์แบบใด การรับรู้และป้องกันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับสุขภาพทางเพศที่ดี
![]()
บริการตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
จาก “ปัสสาวะ” ครอบคลุม 14 ชนิด
ในราคาพิเศษเพียง 3,000 บาท
รายการ 14 ชนิดประกอบด้วย ![]()
1. หนองในแท้ (Neisseria gonorrhoeae)
2. หนองในเทียม (Chlamydia trachomatis)
3. หนองในเทียม (Mycoplasma Genitalium)
4. หนองในเทียม (Ureaplasma Urealyticum)
5. หนองในเทียม (Ureaplasma Parvum)
6. หนองในเทียม (Mycoplasma Hominis)
7. ซิฟิลิส (Treponema Pallidum)
8. เริม ชนิดที่ 1 (Herpes Simplex Virus Type I)
9. เริม ชนิดที่ 2 (Herpes Simplex Virus Type II)
10. เชื้อราในช่องคลอด (Candida Albicans)
11. พยาธิในช่องคลอด (Trichomonas Vaginalis)
12. เชื้อแบคทีเรียในช่องคลอด (Gardnerella Vaginalis)
13. เชื้อแบคทีเรียในช่องคลอด (Group B Streptococcus)
14. แผลริมอ่อน (Heamophilus Ducreyi)
สนใจบริการตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (STD) จองตรวจหรือสอบถามได้ที่
Inbox หรือ LINE: @atgenes
โทร 080-1478961